วัน-เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 - 17.00

แชร์บทความนี้

 

การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้งานในต่างประเทศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น หลายท่านอาจจะต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างติดตัวไปใช้งานในระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ (อาทิเช่น โน้ตบุค, เครื่องเป่าผม, กาต้มน้ำ)ซึ่งการจะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้ในต่างประเทศ มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาอยู่หลักๆ 2 เรื่องคือ รูปแบบของปลั๊กไฟ และ แรงดันไฟฟ้าของประเทศนั้นๆ

สำหรับรูปแบบของปลั๊กไฟในต่างประเทศ อาจจะมีเต้ารับไม่ตรงกับแบบปลั๊กที่ใช้กับในประเทศของเรา อาทิเช่น ประเทศในแถบ ยุโรป มักจะมีเต้ารับที่ใช้กับปลั๊กที่มีลักษณะเป็นขากลม , ประเทศอังกฤษ, สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย จะมีเต้ารับที่ใช้กับปลั๊กที่มีลักษณะเป็นขาเหลี่ยม ในขณะที่ประเทศจีน, ออสเตรเลีย จะมีเต้ารับที่ใช้กับปลั๊กไฟที่มีลักษณะเป็นขาแบนเอียง ทำให้เราไม่สามารถเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับได้

 

เต้ารับในโซนยุโรป
เต้ารับในอังกฤษ
เต้ารับในออสเตรเลีย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ท่านควรจะเตรียมอุปกรณ์สำหรับแปลงขาไฟ หรือที่เรียกกันว่า Traval Adapter โดยเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวจะมีฝั่งเต้ารับที่สามารถใช้กับขาปลั๊กได้หลากหลายชนิดในขณะเดียวกันอีกฝั่งก็จะสามารถเลือกขาในแบบที่เหมาะสมไปเสียบกับเต้ารับของประเทศต่างๆได้(ดูรูปประกอบ)

 

ตัวอย่าง Travel Adapter

 

 

อย่างไรก็ตามมีสิ่งที่พึงระมัดระวังก็คือ อุปกรณ์สำหรับแปลงขาไฟส่วนใหญ่นั้นทำหน้าที่เพียงแค่การทำให้ท่านสามารถเสียบปลั๊กที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันได้เท่านั้น ตัวมันเองไม่ได้ทำหน้าที่ในการปรับแรงดันไฟฟ้าแต่อย่างใด ถ้าหากเครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านไม่รองรับแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างกันในบางประเทศ อาจจะทำให้เกิดความชำรุดเสียหายได้

 

ดังนั้นก่อนเดินทางไปประเทศใด ท่านควรศึกษาก่อนว่าที่ประเทศนั้นๆ ใช้ไฟฟ้าที่แรงดันกี่โวลต์(V) ความถี่ของกระแสสลับกี่เฮิรซ์ (Hz) ยกตัวอย่างเช่น ที่ประเทศญี่ปุ่นแรงดันไฟฟ้าที่ใช้คือ 110V(ความถี่ 60Hz)ในขณะที่ประเทศไทยบ้านเราแรงดันไฟฟ้าที่ใช้คือ 220V(ความถี่ 50Hz)อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างในบ้านเราที่ออกแบบมาให้ใช้กับไฟฟ้าแรงดัน 220V เท่านั้นจะไม่สามารถนำไปใช้ได้ในกรณีนี้

 

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ไฟฟ้าบางอย่าง ก็สามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่ได้หลากหลายระดับ ตัวอย่างเช่น อแดปเตอร์ของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคหลายๆ ยี่ห้อ สามารถใช้ได้กับแรงดันไฟฟ้าทั้งแบบ 110V และ 220V(ความถี่ 50 – 60Hz)

วิธีสังเกตว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าใดรองรับไฟฟ้าแรงดันเท่าใด ให้ลองศึกษาจากคู่มือวิธีใช้ หรือ อาจจะดูจากฉลาก (Power Rating Label) ที่ติดอยู่กับเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ซึ่งมักจะระบุเอาไว้หลังจากคำว่า Input หรือ Input Voltage หรือ แรงดันไฟฟ้า ซึ่งถ้าระบุไว้เป็นค่าเดียวเช่น 220V หรือช่วงแคบๆ เช่น 220V – 240V ก็ไม่สามารถนำไปใช้กับประเทศที่จ่ายไฟแรงดัน 110V ได้

 

ตัวอย่างป้ายบอกแรงดันระดับเดียว

 

 

แต่ถ้าระบุเอาไว้เป็นช่วงกว้างเช่น 100V – 240Vก็สามารถนำไปใช้ในประเทศที่จ่ายไฟแรงดัน 110V ได้(ความถี่ของกระแสสลับก็เป็นไปในหลักการเดียวกัน)

 

ตัวอย่างป้ายบอกแรงดันที่เป็นช่วง

 

 

นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับแรงดันไฟฟ้าแบบเป็นช่วงกว้างแล้ว ก็ยังมีใช้ไฟฟ้าบางชนิดที่มีสวิตช์หมุนปรับเลือกแรงดันไฟฟ้าได้ เมื่อจะนำไปใช้งานกับประเทศไหนก็หมุนปรับสวิตช์แรงดันไฟให้ตรงกับประเทศนั้นๆ

 

ตัวอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เลือกระดับแรงดันได้

 

อย่างไรก็ตาม หากท่านมีความจำเป็นจะต้องนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่รองรับแค่แรงดันไฟฟ้าแต่เพียง 220V ไปใช้ในประเทศที่มีแรงดันไฟฟ้าที่แตกต่างออกไป ท่านอาจจะต้องจัดหา อุปกรณ์แปลงแรงดันไฟฟ้า เพิ่มเติมขึ้นมาอีกอันหนึ่ง (ดูรูปประกอบ)

 

ตัวอย่าง Power Converter

 

 

สำหรับสิ่งที่พึงพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกตัวแปลงแรงดันไฟฟ้าก็คือ ค่ากำลังไฟฟ้า (หน่วยเป็น Watt.) ที่ตัวแปลงแรงดันสามารถจ่ายได้ จะต้องมีค่ามากกว่า กำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะนำมาใช้งาน ตัวอย่างเช่นหากท่านต้องการนำเครื่องเป่าผมที่ใช้กับไฟแรงดัน 220V อย่างเดียวไปใช้ที่ประเทศญี่ปุ่นควรศึกษาว่าเครื่องเป่าผมดังกล่าวกินกำลังไฟฟ้าเท่าใด (สังเกตจากตัวเลขที่มีคำว่า วัตต์ หรือ Watt. หรือ W ต่อท้าย) ตัวอย่างเช่น 800 Watt. (หรือ 800 W) ในกรณีนี้ท่านควรเลือกใช้ตัวแปลงแรงดันที่สามารถจ่ายกำลังไฟฟ้าได้มากกว่า 800 Watt. ไม่เช่นนั้นตัวแปลงแรงดันไฟฟ้าอาจจะชำรุดและเกิดเพลิงไหม้ได้ เนื่องจากทำงานเกินกำลังซึ่งหากท่านไม่แน่ใจควรปรึกษาผู้ที่มีความรู้ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ตัวแปลงแรงดันไฟฟ้าดังกล่าว

การเตรียมตัวที่ดีจะทำให้การเดินทางมีความราบรื่นสนุกสนาน  หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับคุณลูกค้าของมิตรไมตรีทัวร์ในการท่องเที่ยวหาประสบการณ์ประทับใจในต่างแดน ขอให้มีความสุขกับการเดินทางครับ

 

 

แชร์บทความนี้

บทความอื่นๆ

ดินแดนแห่งแสงไฟ มหานครเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์

ดินแดนแห่งแสงไฟ มหานครเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์

December 6, 2024

ดินแดนแห่งแสงไฟ มหานครเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ สำรวจเสน่ห์ของ เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เมืองแห่งอนาคตที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกอย่างลงตัว! ชมวิวตระการตาของตึกระฟ้าและแสงไฟยามค่ำคืนที่ The Bund เดินเล่นในย่านเมืองเก่าและสัมผัสเสน่ห์ของตรอกซอกซอยโบราณ ดื่มด่ำกับศิลปะการทำอาหารจีนแท้ๆ ในร้านอาหารระดับโลก หรือเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในย่านทันสมัยอย่าง Nanjing Road เซี่ยงไฮ้ไม่ใช่แค่เมืองใหญ่ แต่เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่คุณต้องสัมผัสด้วยตัวเอง เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ และเส้นทางท่องเที่ยวสุดฟินในเมืองแห่งอนาคต เซี่ยงไฮ้ เมืองที่ไม่เคยหลับใหลของจีน เต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ ความเจริญรุ่งเรือง และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็คือ เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) อาณาจักรแห่งความฝันที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย! ไม่เพียงเท่านั้น เซี่ยงไฮ้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวเอง เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์: สวนสนุกที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่นสุดล้ำและธีมที่สร้างสรรค์มาเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ ต้องลอง: TRON Lightcycle Power Run เครื่องเล่นสุดล้ำที่ให้คุณซิ่งบนรถมอเตอร์ไซค์แห่งโลกอนาคต Pirates of the Caribbean: Battle for the … Continued

สถานที่น่าเที่ยวจอร์เจียในปี 2568

สถานที่น่าเที่ยวจอร์เจียในปี 2568

December 5, 2024

ทัวร์จอร์เจีย: สถานที่น่าเที่ยวจอร์เจียในปี 2568 ประเทศจอร์เจีย (Georgia) ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปและเอเชีย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผสมผสานวัฒนธรรม ความงามทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปี 2568 เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวในจอร์เจีย เพราะประเทศนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักเดินทางจากทั่วโลก 1. ทบิลิซี (Tbilisi) – เมืองหลวงเสน่ห์แห่งการผสมผสาน ทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศ ผสมผสานระหว่างความเก่าแก่ของเมืองเก่ากับความทันสมัยของเมืองใหม่ สถานที่แนะนำ: ย่านเมืองเก่า (Old Town) ที่มีบ้านไม้สีสันสดใสและระเบียงแบบดั้งเดิม, โบสถ์ Holy Trinity Cathedral และสะพานสันติภาพ (Bridge of Peace) กิจกรรม: ลิ้มรสไวน์ท้องถิ่นในร้านอาหารริมถนนและนั่งกระเช้าชมวิวเหนือเมือง 2. เมสเตีย (Mestia) และเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) สำหรับคนรักธรรมชาติ เมสเตียเป็นประตูสู่เทือกเขาคอเคซัสที่มีวิวทิวทัศน์อลังการ กิจกรรม: เดินป่าชมธารน้ำแข็ง ชมวิวภูเขาสูงเสียดฟ้า และเยี่ยมชมหมู่บ้านแบบดั้งเดิมของชาวสวาน (Svaneti) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก 3. คาซเบกี (Kazbegi) และโบสถ์เกอเกติ … Continued

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบดั่งสวรรค์บนดิน เที่ยวเดือนไหนดี

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบดั่งสวรรค์บนดิน เที่ยวเดือนไหนดี

August 17, 2024

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบดั่งสวรรค์บนดิน ทัวร์จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจมาก โดยตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ความงดงามของจิ่วจ้ายโกวนั้นมาจากภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบไปด้วยทะเลสาบสีฟ้าเขียว น้ำตกสวยงาม ป่าเขาอันเขียวขจี และหุบเขาที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งที่น่าสนใจในจิ่วจ้ายโกว ได้แก่: 1. **ทะเลสาบสีฟ้าใส** – ทะเลสาบหลายแห่งในจิ่วจ้ายโกวมีน้ำสีฟ้าเขียวใสเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมีแร่ธาตุในน้ำที่ทำให้เกิดสีสันที่สวยงาม เช่น ทะเลสาบห้าสี (Five-Color Lake) ที่สีของน้ำเปลี่ยนแปลงตามแสงแดด 2. **น้ำตก** – จิ่วจ้ายโกวมีน้ำตกหลายแห่งที่มีความงดงาม น้ำตกหนู่หรง (Nuorilang Waterfall) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยและใหญ่ที่สุดในพื้นที่ 3. **ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์** – บริเวณรอบๆ จิ่วจ้ายโกวเต็มไปด้วยป่าไม้และภูเขา ซึ่งเปลี่ยนสีตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และทอง สร้างทัศนียภาพที่งดงามมาก 4. **บรรยากาศเงียบสงบ** – จิ่วจ้ายโกวถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และหลบหนีจากความวุ่นวายในเมือง การเที่ยวจิ่วจ้ายโกวจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีสีสันสดใส   ❤️ ฤดูการท่องเที่ยวของจิ่วจ้ายโกวมีความหลากหลายและน่าสนใจในทุกฤดูกาล โดยแต่ละช่วงมีความสวยงามและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป: 1. … Continued

จองออนไลน์ 24 ชม.

ทัวร์คุณภาพ คัดสรรเพื่อคุณ

เดินทางได้ชัวร์

การันตีรางวัล Top Sales

จองง่าย ปลอดภัย 100%