วัน-เวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.00 - 17.00

แชร์บทความนี้

 

แอฟริกาใต้ ประเทศอิสระที่อยู่ตอนปลายทางใต้สุดของทวีป แอฟริกาเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก สภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย และมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ พรมแดนติดกับประเทศนามิเบีย บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก และสวาซิแลนด์ นอกจากนี้ยังมีเลโซโทซึ่งเป็นประเทศที่ถูกล้อมรอบทุกด้าน รวมทั้งยังเป็นประเทศส่งออกเพชร, ทองคำ ซึ่งผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของเมืองแห่งประวิติศาสตร์ที่จะทำให้ใจคุณเต้นแรงไปกับเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นของมัน

 

 

เรื่องน่ารู้ แอฟริกาใต้

เคปทาวน์  เป็นเมืองใหญ่อันดับสามและเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศแอฟริกาใต้ มีพื้นที่ 2,455 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 3,497,097 คน (พ.ศ. 2550) เมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก เป็นเมืองเล็กๆที่มีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ตรงแหลมกู๊ดโฮป ที่ยื่นออกไปทางระหว่างสองมหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก จึงมีสภาพภูมิอากาศอบอุ่นแบบเมดิเตอร์เรเนียน

จุดเด่นของเมืองอยู่ที่ภูเขาลูกใหญ่กลางเมืองที่สามารถมองเห็นได้จากทุกสารทิศ รูปทรงแปลกตาคือ มีลักษณะเสมือนโต๊ะที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินอย่างไรอย่างนั้น จึงทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ภูเขาโต๊ะ หรือ Table Mountain มีความสูง 1,086 เมตร หรือ 3,563 ฟุต

โจฮันเนสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแอฟริกาใต้และเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศ มหานครที่กำลังเติบโตและมีผู้อยู่อาศัยกว่าสามล้านคน เป็นเมืองลำดับต้นๆ ที่นักเดินทางส่วนใหญ่แวะมาเที่ยวชมมากที่สุด หากเดินทางมาแอฟริกาใต้คุณจะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตที่ผสมผสานระหว่างรูปแบบชีวิตในเมืองใหญ่กับสภาพการดิ้นรนของการใช้ชีวิตในสังคมโลกที่สาม โจฮันเนสเบิร์ก เป็นเมืองที่มีความสำคัญที่สุดในประเทศ จึงได้รับการเรียกขานว่า “เมืองแห่งทองคำ”

เวลา
ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง / GMT + 2

ฤดูกาลใน แอฟริกาใต้

ฤดูใบไม้ผลิ – กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน
ฤดูร้อน – ธันวาคม, มกราคม, กุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ร่วง – มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม

เงินตรา
สกุลเงิน South African Rand (ZAR) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า “แรนด์ (Rand)” อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 9.6 แรนด์ (ธันวาคม พ.ศ. 2551)

 

9 สถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด !!
เมืองพริทอเรีย (Pretoria)นามนี้คือวีรบุรุษผู้กล้าเมื่อครั้งอดีตกาลนามว่า แอนดีส์ พรีทอรีอัส (Andries Pretorius) ปัจจุบันมีความสำคัญเมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้ จึงมีสถานที่สำคัญมากมาย บริเวณเมือง โดยเฉพาะจัตุรัสกลางเมือง Church Squareชมอนุสาวรีย์ของอดีตประธานธิบดีของรัฐอิสระชาวบัวร์ ชื่อพอล ครูเกอร์ ในบริเวณใกล้เคียงกันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง อันมีอนุสาวรีย์ของแอนดีส์ พรีทอรีอัสผู้ก่อตั้งเมือง และลูกชาย อีกทั้งสถานที่สำคัญทางราชการของเมืองต่างๆ เช่น ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาลวุฒิสภา ที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่อลังการจนถูกจัดอันดับเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามติดอันดับโลกอีกด้วย นอกจากสถาปัตยกรรมอันงดงามแล้ว อีกสถานที่แห่งความรู้เพื่อเข้าถึงชนพื้นเมืองผู้กล้า ชมภายนอกพิพิธภัณฑ์วูร์เทรคเกอร์ (Voortrekker Monument & Museum) อนุสรณ์สถานฉลองครบรอบ 100 ปีสงครามกับพื้นเมือง อีกทั้งวิถีแห่งชาวบัวร์ชนพื้นเมืองผิวขาวกับการอพยพ ถ่ายรูปด้านนอกกับบริเวณ Union Buildingซึ่งบริเวณนี้เป็นสถานที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิปดีของแอฟริกาใต้ ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆของประวัติศาสตร์เกิดขึ้นที่นี่ ถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นอดีตประธานาธิปดีเนลสัน แมนเดลา (Nelson Mandala) ที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือสวน แมนเดลาเข้ารับตำแหน่งที่นี่เมื่อปี 1994 เป็นประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยคนแรกของแอฟริกาใต้
วนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลันเนสเบิร์ก(Pilanesburg)  เมืองซันซิตี้ (Sun City) เมืองที่ถูกสร้างตามจินตนาการของ ชอล เคิร์ชเนอร์ มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้มั่งคั่ง ใช้งบประมาณมหาศาล ทั้งระยะเวลายาวนานในการสร้างอย่างปราณีตและสร้างสรรค์กว่า 18 ปี จากดินแดนอันไร้ค่าในอดีตแห่งแคว้น Bophuthatswana บริเวณตอนกลางของแอฟริกาใต้ เป็นอาณาจักรอันกว้างใหญ่และพร้อมสรรพไปด้วยสถานที่พักผ่อนตากอากาศอันสวยหรูและยิ่งใหญ่อลังการรวมตัวกัน รวมทั้ง เดอะพาเลซ (The Palace) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1992 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน ที่พักสุดหรูเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยบริการระดับมาตรฐานโลก ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่ท่านไม่สามารถสัมผัสได้จากที่ใดในโลก อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดของการท่องเที่ยวมายังแอฟริกาใต้ คือ ซาฟารีลอดจ์ บนผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์นี้ ถ่ายรูปและสัมผัสสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด กับ กิจกรรมส่องสัตว์ซาฟารียามค่ำ ที่พากันออกหากินในยามค่ำ อันเป็นวัฏจักรชีวิตอันน่าพิศวง ทั้งสัตว์ป่าน้อยใหญ่นานาชนิด
สวนเสือ (The Lion Park) เปลี่ยนเป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นแบบซาฟารี อันโดดเด่นของแอฟริกา ชมสัตว์ป่า เช่น เสือขาว ม้าลาย และสัตว์แปลกๆอื่นอีกมากมายรอให้ท่านได้ไปสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพประทับใจกันได้เต็มที่ ซึ่งสัตว์เหล่านั้นอยู่อาศัยกันในป่าตามแบบระบบนิเวศน์อันแตกต่างกัน ของแต่ละชนิดสัตว์นั้นๆ ในแต่ละโซนพื้นที่อันต่างกันออกไปเป็นการชมสัตว์ตามสภาพวิถีชีวิตจริงอันน่ามหัศจรรย์แห่งธรรมชาติล้วนๆ อันหาชมได้ยากยิ่งทีเดียว
หมู่บ้านเลเซดี หมู่บ้านวัฒนธรรมแห่งนี้นำเสนอวิถีชีวิตหลากหลายรูปแบบและประวัติความเป็นมาของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ ของชาวแอฟริกาใต้ได้อย่างละเอียดและน่าสนใจ ทั้งรูปแบบบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  ศิลปะการแสดงต่างๆ รอให้ท่านได้ศึกษาและเรียนรู้อย่างน่าสนใจ หลังการชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทำให้เราเข้าถึงชนพื้นเมืองในเวลาอันรวดเร็วนี้แล้ว และให้ท่านได้ชมโชว์พื้นเมือง ของชาวเลเซ
กระเช้าหมุนรอบตัวเองแบบ 360 องศาสู่ ภูเขาโต๊ะ หรือ Table Mountain 1ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกทางธรรมชาติ (New 7 Wonders of Nature) ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเคปทาวน์ เป็นภูเขาที่มีความสูงระดับ 3563 ฟุต มีลักษณะยอดเขาตัดขวางเรียบจนดูเหมือนโต๊ะ โดยเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกประกอบกับการกัดกร่อนโดยลมฝน บนยอดเขามีพรรณพืชนานาชนิดและหลายชนิดเป็นพืชถิ่นเดียวที่ไม่มีในที่ใดในโลก (Endemic Species) ข้างบนภูเขานั้นมีธรรมชาติที่สวยงามผสมผสานกันอย่างลงตัวผ่าน ภูเขา, หุบเขา สายน้ำ และลำธาร
ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศ ที่มีชื่อเสียงของเมือง West Coast Ostrich Farmเรียนรู้เรื่องราวอันน่าสนใจยิ่งของนกกระจอกเทศ ที่มีจุดเด่นคือ เป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่แต่แทนที่จะใช้ปีกบินกลับมีความชำนาญในการใช้ขาวิ่งได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกเลยเลยทีเดียว แถมปัจจุบันยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญของ
เมืองเคปทาวน์ (Cape Town) เมืองสวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก อีกแห่งที่ท่านไม่ควรพลาดในการไปเยือนครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งในยุคใหม่ที่เมืองนี้เคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2010 ที่ผ่านมา แล้วยังเป็นเมืองเก่าแก่กว่า 300 ปี อีกทั้งสภาพอากาศที่ค่อนข้างบริสุทธิ์เกือบตลอดทั้งปี ด้วยเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายอ่าง มีลมพัดแรงจนพัดเอามลพิษต่างๆออกไปหมด เนื่องด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ มีแหลมกู๊ดโฮปที่ยื่นออกไประหว่าง มหาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแอตแลนติค ปัจจุบันนี้มีความใหญ่เป็นอันดับสามและเป็นเมืองหลวงฝ่ายนิติบัญญัติของแอฟริกา นอกจากเมืองพริทอเรีย และบลูมฟอนเทน ซึ่งเป็นเมืองหลวงด้านการบริหารประเทศ และศูนย์กลางทางฝ่ายตุลาการ
ท่าเรือฮูทเบย์ (Hout Bay) เพื่อล่องเรือไปชมแมวน้ำจำนวนมาก ที่พากันมานอนอาบแดดรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์อย่างมีความสุขกันตามธรรมชาติอยู่บริเวณเกาะซีล (Seal Island) ซึ่งเป็นวิถีชีวิตน่ารักๆ อิริยาบทอันน่ามหัศจรรย์ของสัตว์โลกน่ารักอีกชนิดที่หาดูไม่ได้ในบ้านเรา จากนั้นนำท่านชมอีกสัตว์โลกน่ารักเฉพาะถิ่นที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้กันนั่นคือ เหล่านกเพนกวิน ที่มีถิ่นอาศัยตามธรรมชาติอยู่บริเวณเมืองไซม่อนทาวน์ (Simon Town) ที่มีบ้านเรือนของเหล่ามหาเศรษฐีที่ตั้งลดหลั่นกันอยู่บนเชิงเขา หันหน้าออกสู่ท้องทะเลสีคราม เหล่าบรรดานกเพนกวินสัญชาติแอฟริกันตัวน้อยพากันเดินต้วมเตี้ยมอย่างมีความสุขกันอยู่บนหาดโบลเดอร์อันสงบเงียบนี้ ให้ท่านได้ถ่ายรูปและชมอิริยาบทน่ารักนี้อย่างสนุกสนาน
แหลมกู๊ดโฮป (Cape of Good Hope) มทัศนียภาพอันงดงาม ณ บริเวณCape Pointจุดสำคัญแห่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ด้วยความยากของการเดินเรือ ผ่านเส้นทางนี้ไปได้นั้นช่างยากเย็น ทำให้มีตำนานเรื่องเล่าของเหล่ากะลาสีนักเดินเรือ ที่กล่าวขานกันมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่อดีตทั้งการหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยกระแสคลื่นลมอันโหดร้าย สภาพอากาศอันแปรปรวนเสมอ ทำให้มีการกล่าวถึงการก้าวผ่านอาณาเขตนี้ไปได้ด้วยความหวังยิ่งนั้น ช่างยากเย็นไม่น้อยทีเดียว อันเป็นที่มาแห่งชื่อของแหลมแห่งนี้ที่ต้องอาศัยความศรัทธาแห่งความหวังยิ่งนั่นเอง

ทัวร์แอฟริกาใต้ >> https://bit.ly/2TxmQzg

 

แชร์บทความนี้

บทความอื่นๆ

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบดั่งสวรรค์บนดิน เที่ยวเดือนไหนดี

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว ชมทะเลสาบดั่งสวรรค์บนดิน เที่ยวเดือนไหนดี

August 17, 2024

ทัวร์จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจมาก โดยตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ความงดงามของจิ่วจ้ายโกวนั้นมาจากภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกอบไปด้วยทะเลสาบสีฟ้าเขียว น้ำตกสวยงาม ป่าเขาอันเขียวขจี และหุบเขาที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งที่น่าสนใจในจิ่วจ้ายโกว ได้แก่: 1. **ทะเลสาบสีฟ้าใส** – ทะเลสาบหลายแห่งในจิ่วจ้ายโกวมีน้ำสีฟ้าเขียวใสเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมีแร่ธาตุในน้ำที่ทำให้เกิดสีสันที่สวยงาม เช่น ทะเลสาบห้าสี (Five-Color Lake) ที่สีของน้ำเปลี่ยนแปลงตามแสงแดด 2. **น้ำตก** – จิ่วจ้ายโกวมีน้ำตกหลายแห่งที่มีความงดงาม น้ำตกหนู่หรง (Nuorilang Waterfall) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยและใหญ่ที่สุดในพื้นที่ 3. **ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์** – บริเวณรอบๆ จิ่วจ้ายโกวเต็มไปด้วยป่าไม้และภูเขา ซึ่งเปลี่ยนสีตามฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง และทอง สร้างทัศนียภาพที่งดงามมาก 4. **บรรยากาศเงียบสงบ** – จิ่วจ้ายโกวถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และหลบหนีจากความวุ่นวายในเมือง การเที่ยวจิ่วจ้ายโกวจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีสีสันสดใส   ❤️ ฤดูการท่องเที่ยวของจิ่วจ้ายโกวมีความหลากหลายและน่าสนใจในทุกฤดูกาล โดยแต่ละช่วงมีความสวยงามและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป: 1. **ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม … Continued

ทัวร์สแกนดิเวีย สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งขั้วโลกเหนือ

ทัวร์สแกนดิเวีย สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งขั้วโลกเหนือ

August 9, 2024

ทัวร์สแกนดิเนเวีย มนต์เสน่ห์แห่งขั้วโลกเหนือ ได้รับความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวมาโดยตลอด วันนี้แอดมินจะมาแนะนำว่าทำไม ทัวร์สแกนดิเนเวียถึงเป็นที่นิยมของนักเดินทางค่ะ 1. **ธรรมชาติและทิวทัศน์ที่งดงาม**: สแกนดิเนเวียมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เช่น ฟยอร์ด ภูเขา ทะเลสาบ และปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก 2. **วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์**: ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงประวัติศาสตร์ไวกิ้งและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น โบสถ์ไม้เก่าแก่ในนอร์เวย์ และพระราชวังในสวีเดน 3. **คุณภาพชีวิตสูง**: ประเทศในสแกนดิเนเวียมีคุณภาพชีวิตที่ดี สถานที่ท่องเที่ยวสะอาด ปลอดภัย และมีบริการที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกสบายใจในการเดินทาง 4. **กิจกรรมและประสบการณ์พิเศษ**: นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปีนเขา การล่องเรือในฟยอร์ด หรือการล่าปลาแซลมอน นอกจากนี้ยังมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ในเมืองศูนย์กลาง เช่น โคเปนเฮเกน สต็อกโฮล์ม และออสโล 5. **การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม**: ประเทศในสแกนดิเนเวียให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และมีมาตรการที่เข้มงวดในการปกป้องธรรมชาติ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้ความสนใจ ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียประกอบด้วยสามประเทศหลัก ได้แก่ **นอร์เวย์ (Norway)**, **สวีเดน (Sweden)**, และ … Continued

1 ปีมีครั้งเดียว สักครั้งต้องไปเยือน ทะเลสาบไบคาล รัสเซีย

1 ปีมีครั้งเดียว สักครั้งต้องไปเยือน ทะเลสาบไบคาล รัสเซีย

August 6, 2024

ทะเลสาบไบคาลในรัสเซียเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในโลก ทะเลสาบนี้เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 744.4 เมตร และลึกที่สุดถึง 1,642 เมตร น้ำในทะเลสาบนี้ใสสะอาดมากจนสามารถมองเห็นได้ลึกถึง 40 เมตร ทะเลสาบไบคาลยังเป็นที่รู้จักกันดีในช่วงฤดูหนาวที่น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งจนเป็นทางเดินหรือขับขี่รถได้ การเดินทางไปยังทะเลสาบไบคาลในช่วงนี้จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ เช่น น้ำแข็งที่มีลวดลายและสีสันต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากความเย็นและลมที่พัดผ่าน การเดินทางไปเยือนทะเลสาบไบคาลสักครั้งหนึ่งในชีวิตเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติและการผจญภัย สนใจทัวร์ไบคาล รัสเซีย คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ >> https://mitmaiteetour.com/search-tour/?q=%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2&code=%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A5

จองออนไลน์ 24 ชม.

ทัวร์คุณภาพ คัดสรรเพื่อคุณ

เดินทางได้ชัวร์

การันตีรางวัล Top Sales

จองง่าย ปลอดภัย 100%